Free Guy (2021) ขอสักทีพี่จะเป็นฮีโร่ อีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้สุดฮา ที่กำกับโดย ชอว์น เลวี บทโดย แมตต์ ลีเบอร์แมน และ ซาค เพนน์ ที่ได้เล่าเรื่องราวของพนักงานธนาคารหนุ่มคนหนึ่ง ที่ค้นพบว่าเขาเป็นเพียงตัวละครในวิดีโอเกมออนไลน์ Free City ความอลเวงและความมันส์แอ็คชั่นสุดบู๊ จึงได้ถือบังเกิดขึ้น มุกตลกกวนๆ ที่เสียดสีสังคม และอีกมากมาย จนมีกระแสเสียงออกมาวิจารณ์กันว่าหนังเรื่องนี้อย่างกับถอดแบบวีดีโอเกมชื่อดังอย่าง Grand Theft Auto เป็นเวอร์ชั่นหนังเลยทีเดียว
เรื่องราวของ กาย (แสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส) พนักงานธนาคารที่ใช้ชีวิตซ้ำซากจำเจในแต่ละวัน เขาตื่นนอน ไปทำงาน กลับบ้าน วนเวียนอยู่อย่างนั้นทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง กายได้พบกับ โมโลทอฟเกิร์ล (แสดงโดย โจดี โคเมอร์) ตัวละครหญิงใน Free City เกมออนไลน์ที่เขาเล่นอยู่ ซึ่งเธอนั้นกำลังถูกตามล่าโดยผู้เล่นคนอื่นในเกมเดียวกัน กายตัดสินใจช่วยโมโลทอฟเกิร์ลจากการถูกไล่ล่า เขาใช้ทั้งทักษะและความสามารถของในการเอาชนะผู้เล่นคนอื่นในเกม จนเริ่มมีชื่อเสียงใน Free City และในที่สุดก็ได้กลายเป็นฮีโร่ของผู้เล่นคนอื่นในเกม เรื่องราวก็ดูเหมือนจะเป็นใจเขามาโดยตลอด จนกระทั่งกายได้รู้ข่าวลือในเกม Free City ว่าเป็นเกมที่พัฒนาโดยสองพี่น้องตัวร้าย ที่พร้อมจะทำลายเกมที่เขาสร้างขึ้นมาเองได้เสมอ เขาจึงร่วมมือกับโมโลทอฟเกิร์ลเพื่อหยุดยั้งสองพี่น้องไม่ให้ทำลายโลกแห่ง Free City นี้ให้ได้
ต้องยอมรับว่าช่วงที่หนังปล่อยออกมาให้รับชมกัน เป็นจังหวะที่โลกเสมือน หรือ Metaverse กำลังบูมมากๆ เลยทำให้คนดูอินกับเรื่องราวนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะ Free City เป็นโลกเสมือนที่ผู้เล่นสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ และตัวละครหลักอย่างกายก็พบว่าโลกเสมือนเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่ใจต้องการ และในที่สุดก็ได้กลายเป็นฮีโร่ที่ใครๆ ก็ชื่นชอบในตัวเขา ซึ่งต้องยกเครดิตให้ ไรอัน เรย์โนลด์ส ที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทกาย ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างสมจริงและกวน ฮา บ้าพลังมาก
ส่วนเรื่องงานภาพกราฟฟิกซีจีก็ทำออกมาได้เนี๊ยบสมจริง ไม่มีภาพลอยๆ มาทำให้ขัดใจแต่อย่างใด เป็นการดีไซน์โลกเสมือนได้ฟีลลิ่งถึงใจคนดูอย่างดีมากทีเดียว สุดท้ายกับเรื่องบทของหนังเรื่องนี้ ถือว่าเรื่องราวก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรคนดูมากมาย สไตล์หนังแอ็คชั่นทั่วไปที่ตัวละครหลักจะต้องไปกู้โลก Free City กลับมาคืนสู่ผู้เล่นทุกคนอีกครั้งให้คงอยู่กับความสุขของเมืองนี้ตลอดไป การต่อสู้กับวายร้ายอุปสรรคต่างๆ การแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้ง่ายจนคนดูเซ็ง แต่กลับดูได้แบบเรื่อยๆ จนจบเรื่องถือว่าดีมาก
ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นอยู่แล้วก็สามารถรับชม Free Guy ขอสักทีพี่จะเป็นฮีโร่ กันได้อย่างสนุกแน่นอน โดยเฉพาะการแทรกความตลกฮาสไตล์แอ็คชั่นคอมเมดี้ ก็ยิ่งทำให้ตัวหนังมีลูกเล่นและไม่น่าเบื่อ ที่ไม่ได้ขายแต่ฉากคิวบู๊ตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นฮีโร่ของกาย ที่ไม่ว่าคนเราจะอยู่โลกไหนก็สามารถเป็นฮีโร่ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ การปกป้องผู้อื่น ช่วยเหลือกันก็ทำให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น กลายเป็นหนังแอ็คชั่นที่ครบรสทีเดียว คอหนังห้ามพลาด